ใครๆ
เขาก็ว่า พระแบบสุโขทัยนั้นงามนัก และยกย่องกันว่า
หน้าพระที่งามที่สุดของศิลปะสุโขทัยองค์หนึ่ง ก็คือ พระปางลีลา ที่วัดมหาธาตุ
เชลียง จังหวัดสุโขทัย นั่นเอง
จึงดึงดูดผู้คนให้ไปเยี่ยมชมวัดมหาธาตุเชลียงกันอยู่เสมอ
และจะต้องจำสะพานเชือกข้ามแม่น้ำกันได้เป็นอย่างดี
![]() |
พระลีลา วัดมหาธาตุ เชลียง ได้ชื่อว่าเป็นพระปูนปั้นที่งดงามที่สุดองค์หนึ่ง |
ไม่ไกลจากสะพานเชือกสักเท่าไหร่ ใต้ร่มไม้
อาจจะเคยมีคนสังเกตเห็น ว่ามีพระพุทธรูปแบบศิลปะสุโขทัย วางเรียงกันอยู่ บางครั้งก็จะเห็นลุงตัวเล็กๆ คนหนึ่งอยู่ด้วย
ใช่แล้วค่ะ คุณลุงคนนี้เองที่เป็นช่างปั้นพระ
ที่จำลองจิตวิญญาณแบบศิลปะสุโขทัยออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ-ลุงสด น้อยถึง
![]() |
ลุงสด น้อยถึง |
ลุงสด เป็นชาวสุโขทัยโดยกำเนิด อยู่มาจนกระทั่งอายุขนาดนี้
ผ่านการบวชเรียนมาแบบหนุ่มไทยแท้ สมัยก่อนนั้น
สุโขทัยก็ยังเป็นเมืองชนบทที่ร่มรื่น
“ครั้งยังบวชอยู่
ปั้นกับอาจารย์ ๆ ก็ไม่เป็นหรอก หัดกันเอง อาศัยดูพระในโบสถ์
ที่วัดตระพังทองที่ผมบวชอยู่”
“ทีแรกคนแก่เป็นชาวพม่า
มาพักอยู่ที่วัด ให้ตะแกปั้น ถามว่าแกปั้นพระเป็นไหม แกก็ว่าเป็น
ก็ปั้นพระให้สักองค์เถอะ กินอยู่ที่วัดนี่แหละ จะให้ความสะดวกทุกอย่าง
แต่แล้วปั้นไม่ได้เรื่องได้ราว ก็เลยเอากันเอง มันไม่มีใคร สมัยนั้น ปีพ.ศ. 2486-7 คนยังไม่เยอะ ยังไม่เจริญ ตัวเมืองเก่าก็รกๆ
ยังไม่บูรณะ”
ปั้นองค์แรกเป็นอย่างไรบ้าง
ลุงสดว่าพอดูได้
ซึ่งพระประธานที่ช่วยกันปั้นกับพระอาจารย์ก็ยังอยู่จนทุกวันนี้
วัสดุที่ใช้ก็เป็นปูนซีเมนต์ตราช้าง แกว่า สมัยนั้นดูเหมือนจะราคากระสอบละหกสลึง
ลุงสดบวชอยู่ 3 พรรษา ก็สึกออกมาทำนาเหมือนเดิม จนกระทั่งกรมศิลปากรเริ่มมาบูรณะโบราณสถาน
และมาเห็นฝีมือปั้นพระของพระอาจารย์ และลุงสดตามวัดต่างๆ
ก็เลยมาขอให้ช่วยงานซ่อมบูรณะ
“ผมไปช่วยอาจารย์(ปลัดบุญธรรม) ปั้นบ้าง เล็กๆ น้อยๆ
ท่านอยู่นาน เก่ง ที่ปั้นแล้ว ไม่ได้ลงสี ปิดทอง ปล่อยไว้อย่างนั้น
ส่วนที่ผมมาปั้นเดี๋ยวนี้ ทำงานร่วมกับคุณสุจิต ที่เป็นหัวหน้าหน่วยเชียงใหม่
ตอนนี้เกษียณแล้ว ทำเป็นสี ทาสีเป็นสีสำริด เป็นสีฝุ่นผสมหลายอย่าง ผสมแอลกอฮอล์
แล้วขัดเงา”
![]() |
บริเวณที่ลุงสดใช้ทำงานปั้นพระ ผลงานของลุงสด มีทั้งพระนั่ง พระนอน พระยืน ที่คงลักษณะความงามแบบศิลปะสุโขทัยไว้ทุกองค์ |
“ผมมาอยู่นี้(เชลียง) เมื่อ ปี 2499 ที่ปั้นก็ที่
เจดีย์เจ็ดแถว…ช้างล้อม…นางพญา…หลายวัดครับ พระไม่ค่อยมี เป็นเจดีย์ ซ่อมองค์พระก็ที่นี่ ส่วนอัฏฐารส
เศียรไม่มีแล้ว มีแต่ตัว ทีแรกเอาช่างกรุงเทพมาซ่อม ๆ แล้ว แลดูหน้าคล้ายๆ คนปั้น
เหมือนจะร้องไห้ หัวหน้าหน่วยเลยให้ผมทำใหม่ ทุบเลย ติดเม็ดพระศกยังติดไม่เป็นเลย”
“ที่เขาพนมเพลิงด้วย
ตอนนั้นเละเลย ขาอยู่คนละข้าง ท่านอธิบดี ธนิต อยู่โพธิ์ ให้ผมซ่อมประกอบเป็นองค์
ทีแรกจะสร้างให้สมบูรณ์เลย พอทำไป หัวหน้าหน่วยบอก เอาแค่นี่ล่ะ”
เรื่องการซ่อมพระพุทธรูปโบราณ
ที่ถกเถียงกันมาตลอด ฝายหนึ่งก็อยากให้ซ่อมเต็มองค์สมบูรณ์ อีกฝ่ายก็บอกว่า
ซ่อมเท่าที่จำเป็นจะดีกว่า
![]() |
เครื่องมือช่างของลุงสด |
ผู้เขียนถามลุงสด-คนที่ต้องลงมือซ่อมคนนี้-ว่าคิดอย่างไร
“ความเห็นของผม
ผมอยากให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ทางศิลปากรอนุรักษ์ของเก่า อีกอย่างกลัวจะแปรสภาพของเขา”
ตามหลักการอนุรักษ์โบราณวัตถุโบราณสถาน
จะต้องทำให้เห็นว่า ส่วนใดเป็นของมีมาแต่เดิม ส่วนใดเป็นของทำขึ้นใหม่
เพื่อเก็บเป็นหลักฐานว่า ฝีมือโบราณจริงๆ นั้นมีลักษณะอย่างไร
“องค์ลีลาองค์นั้น (พระลีลาปูนปั้น
ในวัดมหาธาตุ เชลียง) ท่านเจ้าคุณจะให้ผมซ่อม ผมก็บอกว่า จะให้ผมซ่อม ผมซ่อมให้
แต่ท่านต้องขออนุญาตกรมศิลปากรเสียก่อน ถ้ากรมศิลปากรอนุญาต ผมจะทำ
ท่านเจ้าคุณก็ทำหนังสือขออนุญาตไปยังกรมศิลปากร ๆ ก็ตอบมาว่า ยังมีส่วนดีอยู่มาก
ยังไม่ควรซ่อม แต่ถ้าจะซ่อมก็ต้องให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจเสียก่อน
ในที่สุดก็ไม่ได้ซ่อม”
เป็นไงคะ
ความคิดของช่างพื้นบ้านคนหนึ่ง ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ คิดแบบนี้ แม้แต่คนมีการศึกษาในเมืองบางคนก็ยังคิดไม่เป็นเลย
ลุงสดบอกว่า ทำงานกับกรมศิลปากรก็เลยเรียนรู้วิธีการอนุรักษ์ของเก่าของโบราณมาด้วย
ผู้เขียนขอให้ลุงสดเล่าบรรยากาศเก่าๆ
ในยุคที่สุโขทัยยังไม่ได้รับการบูรณะ กับช่วงระยะแรกที่ลุงสดได้เข้ามาเป็นช่างซ่อมอนุรักษ์ให้เราฟัง
“พวกลายปูน ตอนที่เจอใหม่ๆ ยังไม่ซ่อม ก็สกปรก ดินมันทับถม
รื้อออกเป็นหลายวัน พระนี้เศียรไม่มี กร บาทไม่มีเลย หัก องค์พระยังอยู่ติดกับผนัง
ศิลาแลงแลบออกมาจากผนัง แล้วพอกปูน ซ่อมเมื่อปี 2503”
“ตอนที่หัดปั้น พระก็ยังเหลือเยอะ
เมื่อผมบวชอยู่ มีพระยืน มีเป็นส่วนมาก เขาเอาไว้ในมณฑป ยังสมบูรณ์อยู่
เป็นพระสำริด ในระยะที่ผมบวชอยู่ ยังไม่มีขโมยพระ
มาฮิตเอาตอนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (2484)”
“เวลาซ่อม ซ่อมคนเดียวไม่มีลูกมือ วิ่งขึ้นวิ่งลง
เราอยู่บนนั้น ดูไม่รู้เรื่อง เพราะมันโตเต็มไปหมด นั่งดูใกล้ๆ ไม่รู้เรื่อง
ซ่อมลำบากเหลือเกิน ขนาดเดาเอาเอง
อย่าให้ใหญ่กว่าเอว พระที่อยู่สูง เศียรต้องใหญ่กว่าธรรมดา
จมูกต้องใหญ่กว่าปกติ เพราะถ้าทำธรรมดา มันจะไม่พอดี ทำอยู่ 2 เดือนนะ ทีแรกทำคนเดียว
ทีหลังมีหลานชายมาช่วย"
ลุงสุดอธิบายถึงหลักการทำประติมากรรมขนาดใหญ่ในที่กลางแจ้งจากประสบการณ์ส่วนตัว
ซึ่งตรงกับทฤษฎีที่ผู้เขียนได้เรียนมาจากห้องเลคเชอร์ ว่า
สัดส่วนในการสร้างประติมากรรมขนาดใหญ่ จะต้องทำให้ส่วนศีรษะ มีขนาดใหญ่กว่าปกติ
เพราะเมื่ออยู่สูง จะดูมีขนาดเล็กกว่าความเป็นจริง ศัพท์ช่างเขาว่า “อากาศกิน”
“ผมกับเศียรพระดูเหมือนพอๆ
กัน องค์นั้นผมยืนตรงบ่าท่าน แล้วมือเอื้อม เราอยู่ข้างล่างแลดูไม่โตเท่าไหร่
แต่จริงๆ แล้วใหญ่มาก”
![]() |
พระยืนขนาดใหญ่ ที่เรียกกันว่า พระอัฏฐารส |
ลุงบรรยากาศจนเห็นภาพ เพราะพระใหญ่
เราดูอยู่ด้านล่าง ไม่ค่อยรู้สึกว่าใหญ่โตเท่าไหร่ ต้องเข้าไปใกล้จริงๆ
อย่างลุงสดที่ต้องปีนขึ้นไปซ่อมบูรณะ จึงจะรู้สึกถึงความใหญ่โตที่แท้จริง
คิดดูเอาเถิด
คนโบราณเขาใช้ศรัทธามากขนาดไหน จึงจะสร้างพระใหญ่ๆ โตๆ
ที่ดูงดงามมาถึงรุ่นเราได้ขนาดนี้
“ทีแรกผมคิดว่า พระองค์นี้ (พระอัฏฐารส) สูง
3 วา แต่เป็น
4 วา (หัวเราะ) หลังคาเป็นมุงกระเบื้อง
ในระยะที่ผมขึ้นไปซ่อมยังเป็นเศษกระเบื้อง มีไม้วางเป็นพาน เจาะ ไว้ฝังเดือยลงไป
ผมเข้าใจว่าต้องเป็นทรงโบราณ”
“เมื่อครั้งที่ผมซ่อมองค์นี้เสร็จแล้ว
กรมศิลปากรจะให้ผมเหมาหมด ผมไม่เอา ไม่กล้าสู้ ถ้าพลาดไปแล้วแย่เลย”
แม้ลุงสดจะไม่มีดีกรีศิลปศาสตร์บัณฑิต
แต่ด้วยจิตใจแห่งความเป็นช่าง และองค์ความรู้ที่มีอยู่จากความชำนาญ
ลุงสดยังสามารถบอกได้ถึงลักษณะทางศิลปกรรมที่แตกต่างกันไปตามยุคสมัย
![]() |
พระในวัดสองพี่น้อง |
“ที่วัดสองพี่น้อง เศียรตกลงมา ผมสังเกตดูนะ มันเป็นคนละรุ่น
คนละยุค ช่างคนละคน องค์ใหญ่สร้างก่อน ส่วนของข้างใต้มีจริงๆ คนมาล้วงเอาไป เมื่อคราวบูรณะวัดเจ้าจันทร์
พระประธานล้มลงมา ปูนแตก มีพระ 2-3 องค์ ดูเหมือนทางการเขาเอาไป”
ลุงสดอายุไม่น้อยแล้วในเวลาที่ผู้เขียนได้สัมภาษณ์
เวลานั้นก็อายุ 75 ปี ด้วยอายุขนาดนี้
ส่วนใหญ่ก็มักจะพักผ่อน ทำงานเบาๆ กันแล้ว สำหรับลุงสดก็มีลูกหลานครอบครัวที่ประกอบอาชีพอื่นอยู่
ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็ถือว่า ทำเพื่อพระศาสนา แต่ใจแล้ว
แกเองก็อยากหาคนมาสืบสานงานนี้ต่อเหมือนกัน
“เด็กมันไม่ชอบครับ
มันไปเรียนหนังสือ ใจไม่เย็นพอ งานปั้นนั้นมันต้องเป็นคนใจอยู่ ใจเย็นจริงๆ มันไม่สนุกครับ
เด็กๆ ไม่ชอบ มีคนมาขอเรียนเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้เหมือนผม ก็ทำได้ คนที่พอจะทำได้ใกล้เคียงผม มันก็ตายเสีย
มันมองดูงานออก รู้หลักไปได้แล้ว เนื่องจากกินเหล้ามาก เวลาไม่กินก็ดี ทำงานดี
พอเมาแล้ว ก็ชักเหลวไหล”
น่าเสียดายมากที่ช่างฝีมือดีกลับต้องมาเสียเพราะเหล้า
เวลานั้นลุงสดก็พอมีลูกมือมาช่วยงานอยู่บ้าง แต่จะหาคนไหนที่ฝีมือดี
ใจเย็นอยู่กับงาน และอดทนจริงๆ นั่นยังหาไม่ได้ ทุกวันนี้ แรงก็ลดน้อยถอยลง
เวลาจะยกย้ายวัสดุหรือพระองค์หนึ่งๆ ก็ลำบาก แต่แกก็ยังคงทำต่อไปเรื่อยๆ
ช่างชาวสุโขทัยนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และสามารถถอดจิตวิญญาณของงานศิลปะสุโขทัยในอดีตได้อย่างน่าทึ่ง
![]() |
พระพุทธรูป งานของลุงสด ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของศิลปะสุโขทัยได้อย่างน่าทึ่ง |
ไม่เพียงแต่ช่างปั้นพระอย่างลุงสุด แม้แต่ช่างปั้นสังคโลก หรือช่างแกะตัวปัจจัยไม้ ที่ผู้เขียนได้เคยสัมผัสมา ล้วนแต่เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่เคยเรียนศิลปะ หรือมีการศึกษาสูง ไม่เคยฝึกฝนฝีมือในสถาบันมีชื่อใดๆ เพียงแต่อาศัยการดูงานเก่า การเห็นช่างรุ่นก่อนๆ ทำงาน ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์แห่งสุนทรียะของศิลปะสุโขทัยได้อย่างลึกซึ้ง
ด้วยความแปลกใจที่ฟังมาแล้ว
ลุงสดไม่ได้เรียนวิชาช่างจากสถาบันไหน แต่กลับถอดเค้าหน้า และโครงเส้นของพระพุทธรูปสุโขทัยออกมาได้อย่างมีความรู้สึก
เรียกว่า ถอดมาได้ทั้งสไตล์และฟิลลิ่ง
เอ้! ลุงอาจจะมีเคล็ดลับ หรือใช้วัสดุพิเศษก็ได้?
“ใช้ปูนซีเมนต์ครับ” ลุงสดบอก
![]() |
เครื่องมือบางชนิดที่ลุงสดใช้ทำงานปั้นพระ |
แหม เราก็นึกว่า เป็นปูนสดแบบสุโขทัยหรือเปล่า (แบบช่างเมืองเพชร)
วัสดุธรรมดามาก
แล้วลุงสดยังสาธยายวิธีทำให้ฟังเสียอีก
“ทีแรกใช้ปูนหยาบแบบนี้
พอได้ที่ก็ทำหน้า ค่อยๆ พอก ทีละชั้น เปลว(รัศมี)เราก็แกะมาต่อ
แต่ทว่า มันโตกว่านี้ก็ปั้นเลย เม็ด(พระศก)
ก็ทำบล็อค เพราะถ้าไม่ทำแล้ว ไม่เท่ากัน
ติดไม่สวย ปูน-ทราย 5 ต่อ 3 ก็ยังอ่อนไป
ต้องแก่ปูนมากๆ เราทำเป็นกรวยหล่อไว้
พอเย็นๆ อย่างนี้ พอแจ้งเช้าขึ้นมาก็มาแกะ ทิ้งไว้หลายวันแกะไม่เข้า”
![]() |
บล็อกสำหรับทำเม็ดพระศกของลุงสด |
ลุงสดอธิบายด้วยคำธรรมดาๆ
แต่แสดงให้เห็นว่า ต้องเป็นผู้ที่เข้าใจลักษณะของวัสดุ
แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ปูนซีเมนต์และทรายธรรมดา (ธรรมดามากในจินตนาการของเรา) ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของส่วนผสม
ระยะเวลาที่จะต้องทิ้งงานให้เซ็ทตัว
นอกจากวิธีการทำ
และวัสดุแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องรูปธรรมทั่วไปที่เรามองเห็นได้ ผู้เขียนก็อยากรู้ว่า
ในวิถีของชาวไทยชนบท และผ่านการบวชเรียนมาแล้ว งานฝีมือแบบนี้ (ที่ต้องเกี่ยวข้องกับรูปเคารพ)
ลุงสดมีพิธีกรรมอะไรบ้างหรือไม่
“ถึงปีก็ไหว้ครูครับ
ถ้าเป็นพระประธานก่อนลงมือปั้นก็ต้องทำพิธี พระองค์เล็กๆ ไม่จำเป็น”
![]() |
เม็ดพระศกและเปลงรัศมี ฝีมือลุงสด |
พระองค์หนึ่งๆ ใช้เวลาไม่เท่ากันแล้วแต่ว่าองค์เล็กองค์ใหญ่
ลุงสดก็ทำงานไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่เช้า ตื่นมาทำธุระ กินอาหารเช้าเสร็จ ก็เดินมาที่วัด
เพราะบ้านลุงก็อยู่ไม่ไกล แล้วก็ลงมือทำงานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแสงหมดวัน
ก็จะกลับบ้านพักผ่อน
![]() |
ลุงสดขณะกำลังทำงาน |
“รายได้บางทีก็ขาดตอน
ตอนที่ว่า เราปั้นเสร็จแล้ว เขาไม่มาเอา
บางทีงานล้นมือ (ช่วงปี 2523-25)
ผมไปออกรายการโทรทัศน์ พอกลับมา คนรู้ มาว่ากัน คนที่ว่าอยู่ก่อนแล้ว ก็ว่าต่ออีก
กลัวจะขึ้นราคา กลัวจะแพง จริงๆ ก็ไม่ได้ขึ้น”
ชื่อเสียงของลุงสดเป็นที่เลื่องลือ
แต่ก็ทำงานในเฉพาะเมืองสุโขทัยเท่านั้น ลุงเล่าว่า ครั้งหนึ่งจะให้ไปถึงวัดพระเจ้าตนหลวง
จ.พะเยา แต่แกเรียกค่าตัวแพง เขาไม่สู้ ก็เลยไม่ได้ไป
ลุงสด เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 เมษายน ปีพ.ศ. 2542
----------
หมายเหตุ
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก คุณสถาพร เที่ยงธรรม
ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย